วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แอ๊ปเปิ้ลต่างสี ประโยนช์ดีต่างกัน

 ถ้าจะพูดถึงผลไม้ที่เป็นที่นิยมติดตลาด และสามารถหากินได้ทุกฤดูแล้วน้องๆ จะนึกถึงผลไม้อะไร ... คนส่วนมากนึกถึง "แอปเปิ้ล"  เพราะแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่หาซื้อได้ง่ายและมีให้กินทุกฤดูกาล ถือว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียวล่ะค่ะ เพราะไม่ว่าจะเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน ขึ้นบ้านใหม่ หรือเยี่ยมไข้คนป่วย ส่วนใหญ่แล้วเราจะได้เห็นแอปเปิ้ลเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับกระเช้าผลไม้

     สำหรับแอปเปิ้ลที่เราเห็นตามท้องตลาดนั้น มีทั้งชนิดที่เปลือกสีแดง สีชมพู สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งสีที่แตกต่างกันนั้นก็บ่งบอกได้ถึงสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไป ถึงแม้เปลือกด้านนอกจะมีสีไม่เหมือนกันแต่เนื้อข้างในนั้นเป็นเนื้อทรายละเอียดสีขาวนวลเหมือนกัน แต่แอปเปิ้ลแต่ละสีก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน ... หลายคนมีความเข้าใจที่ผิดๆ เกี่ยวกับการกินแอปเปิ้ลว่า เราควรจะปอกเปลือกแอปเปิ้ลออกก่อนกิน แต่จริงๆ แล้ววิธีนี้เป็นวิธีที่ผิด เพราะจะทำให้คุณค่าจากสารอาหารที่จะได้รับจากผลไม้ชนิดนี้ลดลง

    




             เมื่อรับประทานแอปเปิ้ลโดยไม่ปอกเปลือก 1 ผล เราจะได้รับพลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินบี 6 เท่ากับ 0.1 มิลลิกรัม และวิตามินซีมากถึง 7.9 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมีสารเบต้าแคโรทีน และเส้นใยไฟเบอร์ ช่วยในเรื่องของการบำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล (การกินแอปเปิ้ลวันละ 2-3 ผลช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ โดยแอปเปิ้ลลดคลอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย) ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส ในทางกลับกันถ้าเราปอกเปลือกปริมาณสารอาหารดังกล่าวในแอปเปิ้ลก็จะลดลงไปด้วย  

                 นอกจากนี้สำหรับน้องๆ คนไหน ที่อยากควบคุมน้ำหนัก แอ๊ปเปิ้ล ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียว เพราะแอ๊ปเปิ้ล  1 ผล มีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาลถึง 75% ซึ่งเป็นน้ำตาลมเลกุลเดี่ยว ที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกินนาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทั้งทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิด และอ่อนเพลีย ระหว่างรอเวลาอาหารมื้อใหญ่ แต่แอ๊ปเปิ้ลผลสด เท่านั้นที่มีสรรพคุณนี้ การดื่มน้ำแอ๊ปเปิ้ลไม่ทำให้หายหิว แต่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มด้วย 

แอปเปิ้ลแดง มีจุดเด่นที่ดีต่อสุขภาพคือสารแอนตี้ออกซิแดนซ์มากที่สุด และยังสารอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย
     แอปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโลนิกมากที่สุดในบรรดาแอ๊ปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารนี้ยังยับยั้งการเกิดฝ้าชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดอาการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
       แอปเปิ้ลสีเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่นๆ โดยมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก
       แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะการกินแอ๊ปเปิ้ลสีเขียว นอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังมีอิลาสตและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีอีกด้วย


คุณค่ามากล้น จากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

คุณค่ามากล้น จากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่


             ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่เรารู้จักกันนั้นมีมากมาย แต่ที่คุ้นเคยและทานเป็นประจำ ได้แก่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้ประโยชน์แตกต่างกันออกไป วันนี้ขอชวนเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับประโยชน์และคุณค่าของผลไม้ตระกูลนี้กันให้มากขึ้นดีกว่า



บิลเบอร์รี่ (Bilberry)
ประกอบด้วยสารจำพวกฟลาโวนอยด์ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง สารชนิดนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำงานของไต ช่วยรักษาผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยเปราะในอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองของเสียอีกด้วย
ราสเบอร์รี่ (Rasberry)
สุดยอดผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่างๆมากมายแก่ร่างกาย โดยเฉพาะ “สารต้านอนุมูลอิสระ” ส่วนสารสีแดงในราสเบอร์รี่มีคุณสมบัติช่วยให้การหมุนเวียนของโลหิต เป็นปกติ และยังอุดมด้วยวิตามินA , B ช่วยให้ผิวพรรณสดใส สมานแผลต่างๆให้หายเร็วขึ้น
แบล็กเบอร์รี่ (Blackberry)
แหล่งรวมของกรดฟีโนลิก วิตามินซี และโฟเลตสูง ที่ช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟูคอลลาเจนได้ดี และยังมีสารเคมีอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า ซาลิไซเลต สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ และโรคหัวใจได้
บลูเบอร์รี่ (Blueberry)
พบว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ประกอบด้วยปริมาณใยอาหารสูง โดยเฉพาะเพคติน ทำหน้าที่ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และฟื้นฟูความจำให้ดีขึ้นในคนชรา
อาไซอิ เบอร์รี่ (Acai Berry)
เปี่ยมไปด้วยสาร “แอนโทไซยานินส์” มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระระดับสูง ช่วยต้านความเสื่อมของร่างกายและความชรา ช่วยขับสารพิษในเซลล์ได้ดี นอกจากนั้นยังเป็นผลไม้ที่มี ไฟโตเสตอรอลในปริมาณสูง สามารถช่วยลดไขมันเลว (LDL, HDL) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แบร็คเคอร์แร้นท์ (Black Currant)
อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากวิตามิน C ที่มีจำนวนมากกว่าส้มถึง 4 เท่า ช่วยบำรุงรักษาสุขภาพผม สุขภาพผิวหนัง และทำให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น
แครนเบอร์รี่ (Cranberry)
สามารถแก้โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ดี เพราะมีสารแทนนินเข้มข้นอยู่ในแครนเบอร์รี่ ช่วยต่อต้านแบคทีเรีย (anti-biotic) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะเกิดอาการติดเชื้อนั่นเอง
สตรอเบอร์รี่ (Strawberry)
ถือเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง รวมไปถึงวิตามินเอ ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม สำหรับวิตามินซีและวิตามินเอนั้นเป็นสารสำคัญที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สตรอเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าผลไม้อื่นๆ อย่างส้ม องุ่นแดง กีวี กล้วยหอม และมะเขือเทศ
อัลเดอร์เบอร์รี่ (Elderberry)
มีสารสำคัญ คือ แอนโธไซยานิน คุณสมบัติช่วยต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่แรง จึงช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส (Anti-viral) ช่วยป้องกันและบรรเทาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
ประโยชน์ที่กล่าวมามากมายขนาดนี้ เพื่อนๆอย่าลืมทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำเพื่อผิวขาว หน้าใส หรือง่ายๆกับอาหารเสริม Collagen สูตรผิวขาวอย่าง CTP Collagen ที่มีส่วนผสมของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มากมาย รับรองว่าได้รับประโยชน์กันแบบเต็มที่แน่นอน

         http://women.thaiza.com/

บทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน       กลุ่มเรียน 2   รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ นางสาวรัตน์สุดา  งามเสริฐ     รหัสนิสิต  56010315306
คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1.ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับ      เพื่อน
 1.ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับ      เพื่อน
   1)การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
 - DVD     
- แฟลชไดร์      
-ฮาร์ดดิสก์พกพา
   2)การแสดงผล
 - Printer    
-Plotter     
- monitor
   3)การประมวลผล
- เครื่องคิดเลข    
-ฮาร์ดแวร์    
-CPU
   4)การสื่อสารและเครือข่าย
-โทรศัพท์เคลื่อนที่     
-วิทยุ    
-คอมพิวเตอร์

1.ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน
     8     ซอฟต์แวร์ประยุกต์                                 1.ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
     3      Information Technology                  2.e-Revenue
     1     คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล        3.เทคโนโลยีต่างๆที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ                                              เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
     6      เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย       4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และDecoder
    10     ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่ม     5.การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไป
ประสิทธิภาพในการทำงาน                                 ยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย      
     7      ซอฟต์แวร์ระบบ                                    6.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลการสื่อสารโทรคมนาคมและเทค
                                                                         โนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
     9      การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมิ          7.โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในระบบคอมพิวเตอร์
             เดียที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วย
             ตัวเองได้ตามความสามารถ   
    5       EDI                                                     8.โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
    4       การสื่อสารโทรคมนาคม                       9.CAI
    2       บริการชำระภาษีออนไลน์                    10.ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ        


บทที่3 การรู้สารสนเทศ



แบบฝึกหัด บทที่ 3 การรู้สารสนเทศ
1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
   ความสามารถในการกลั่นกลอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
   ความสามารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
   ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
   ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิณและใช้งานสารสนเทศ
2. จากระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด 
   ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ 
   ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
   ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
   ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
   สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 
   สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
   ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
   ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศ
4. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
   โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากชึ้น
   ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
   สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
  ช่วยบุคคลเป็นผู้มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
   1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
   2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
  3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทิภาพ
  4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
  5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
. 1-2-3-4-5       . 2-4-5-3-1        . 5-4-1-2-3         . 4-3-5-1-2

บทที่2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม

ชื่อ-สกุล นางสาวรัตน์สุดา  งามเสริฐ  รหัส 56010315306 สาขา วิศวกรรมศาสตร์

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 2

 คำชี้แจง  จงตอบถามต่อไปนี้
1.ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไวต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ 3 รายการ
        1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
 -http://www.darasart..com
- http://www.yindii.com
-e-book (อิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค)



        1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
 -http://www.dbd.go.th.com/
 -http://www.pwo.co.th/
 -http://www.trustmakthai.com

        1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน
 -http://www.ch7.com/
  -http://www.thaitv3.com/
  -http://www.bangkokpost.com

       1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
-http://www.gunzahonda.blogspot.com/
 -http://www.korachindustry.co.th/
 -http://www.ats.or.th/

        1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
 -http://www.bangkokhospital.com/
 -http://www.pmkmedicine.com/
 -http://www.mnrh.go.th/

        1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ 
 -ระบบตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ
-ระบบทะเบียนประวัติอาชญากร
 -ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบภาพอาชญากร

       1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
 -http://www.tsae.asia/
 -http://www.eeat.or.th/
 -http://www.eit.or.th/

        1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านการเกษตร
  -http://www.doa.go.th/
  -http://www.moac.go.th/
  -http://www.ricethailand.go.th/

    1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
-นาฬิกาพูดได้
-โน๊ตบุ๊คสำหรับคนตาบอด
-เครื่องคิดเลขพูดได้

2.มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
ระบบการลงทะเบียนเรียนออนไลน์
ศูนย์คอม
การยืม-คืนหนังสือของห้องสมุด

3.ข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
 - ระบบการลงทะเบียนเรียนออนไลน์  ช่วยในการลงทะเบียนเรียน เช็คตารางเรียน  ตรวจสอบข้อมูลการศึกษา  ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย
ศูนย์คอม  ช่วยในเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่สนใจ  สืบค้นข้อมูลเพื่อทำการบ้านหรือรายงาน
การยืม-คืนหนังสือของห้องสมุด  ช่วยให้สะดวกสบายรวดเร็วในการคืนหรือยืมหนังสือทำให้ไม่ต้องต่อแถวรอนาน ๆ


บทที่1 แนวคิดและแนวโน้มเกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศยุคใหม่


แบบฝึกหัด
บทที่ 1 (กิจกรรม)                                                                                                กลุ่มที่เรียน 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศใหม่ในชีวิตประจำวัน           รหัสวิชา  0026008
ชื่อนางสาวรัตน์สุดา  งามเสริฐ               รหัส 56010315306

จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูล หรือสารสนเทศ

1.ข้อมูลหมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่
ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผล ซึ่งข้อมูลอาจจะ
ได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะ
ต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชือนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น

2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ  สารสนเทศที่ได้มาจากแหล่งโดยตรง จึงให้รายละเอียดที่ลึกซึ้ง ทันสมัย มีความผิดพลาดน้อย แต่เป็นข้อมูลที่ยังต้องนำมาจัดระเบียบ รวบรวมตีความและประมวลผล เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้ง่ายขึ้นข้อมูลปฐมภูมิมักได้จากแหล่งข้อมูลตัวบุคคล

ยกตัวอย่างเช่น วารสาร รายงาน รายงานการวิจัย รายงานการประชุมและสัมมนาวิชาการ สิทธิบัติ เอกสารมาตรฐานต่างๆ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

3.ข้อมูลทุติยภูมิคือ สารสนเทศที่มีการรวบรวมเรียบเรียงขึ้นใหม่จากแหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ มักจะอยู่ในรูปแบบการสรุป ย่อเรื่อง จัดหมวดหมู่ ทำดรรชนีและสาระสังเขปเพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงและสามารถใช้ข้อมุลได้อย่างสะดวกรวดเร้ว

ยกตัวอย่างเช่น สื่ออ้างอิงประเภทต่างๆ วารสารที่มีการสรุปย่อและตีความ รวมถึงหนังสือ ตำรา พจนานุกรม รายงานสถิติ เป็นต้น


4.สารสนเทศหมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ
เช่น หาค่าเฉลี่ยหรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่ว
ห้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหตือตอบ
ปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆ แต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ใน
รูปที่มีความหมาย สารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

5.จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ การแบ่งประเภทสารสนเทศมีความหลากหลายแล้วแต่จะใช้องค์ประกอบใดเป็นหลัก สารสนเทศแบ่งตามหลักคุณภาพ แบ่งสารสนเทศเป็น 2 ประเภท คือ
1.สารสนเทศที่เชื่อถือได้ เช่น ข้อเท็จจริง สถิติ ตัวเลข ที่นำเสนออย่างเป็นทางการ สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการตัดสินใจและการวางแผนได้
2.สารสนเทศที่เชื่อถือได้น้อย เช่น ความคิดเห็น สามัญสำนึก ความรู้ทั่วไปที่นำเสนออย่างไม่เป็นทางการ

                6.ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรุปภาพเสียงคือ โสตทัศนวัสดุ

                7.ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น สารสนเทศ

                8.ส่วนสุงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น แหล่งสารสนเทศที่เป็นบุคคล

                9.ผลการลงทะเบียนเป็น แหล่งทุติยภูมิ


                10.กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน Section วันอังคารเป็น  แหล่งทุติยภูมิ